GDP อัตราการเติบโตของอุตสหกรรมบริการโลจิสติกส์เฉลี่ยร้อยละ 15 - 20 การเอาท์ซอร์สคิดเป็นร้อยละ 60 - 70 ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลงร้อยละ 16 - 18 ของ GDP อันดับดัชนี LPI ในโลกอันดับที่ 45 รวมทั้งอัตราการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล (Digital Transformation) ประมาณร้อยละ 80 โดยจะดำเนินมาตรการที่ก้าวกระโดด เช่น ก่อสร้างศูนย์กลางท่าเรือโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (Hub port) สายเดินเรือแห่งชาติและศูนย์โลจิสติกส์ ✈️🚢
แนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ 5 ด้าน ได้แก่ ทางรถ ทางราง ทางลำน้ำ ทางทะเลและทางอากาศ ดังนี้ 📍
🚛1. ทางรถ : ภายในปี 2573 ก่อสร้างทางด่วน 26 สาย ระยะทาง 5,170 กม.และทางหลวง 173 สาย ระยะทาง 29,854 กม. ในปี 2593 จะมีทางด่วน 9,014 กม. ส่วนทางหลวงยังคงเดิม
🚞2.ทางราง : ภายในปี 2573 ก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีก 9 สาย ระยะทาง 2,362 กม. โดยปัจจุบัน มีโครงข่ายรถไฟรวม 7 สาย ระยะทาง 2,440 ภายในปี 2593 จะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ (ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้) ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเชื่อมต่อกับท่าเรือไฮฟอง และท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai 
🛥3.ทางลำน้ำ : ภายในปี 2573 จะมีเส้นทางขนส่งทางลำน้ำ 55 เส้น ท่าเรือขนส่งสินค้า 60 แห่ง และท่าเรือขนส่งผู้โดยสาร 27 แห่ง และจะเชื่อต่อท่าเรือทางทะเล
🚢4.ทางทะเล : ภายในปี 2573 จะมีท่าเรือรวม 36 แห่ง ท่าเรือพิเศษ 3 แห่ง คือ ไฮฟอง โฮจิมินห์ และบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ภายในปี 2593 จะลงทุนท่าเทียบเรือ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบขนถ่ายสินค้าให้เชื่อมโยงกัน
✈️5.ทางอากาศ : ภายในปี 2573 จะมีสนามบินนานาชาติ 14 แห่ง สนามบินในประเทศ 16 แห่ง และปี 2593 จะสร้างสนามบินในประเทศเพิ่มอีก 3 แห่ง โดยก่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์ขนส่งทางอากาศในสนามบิน Noi Bai, Van Don,Cat Bi (ภาคเหนือ) และสนามบิน Tan Son Nhat,Da Nang, Chu Lai, Long Thanh, Can Tho (ภาคใต้)
‼️การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของเวียดนามยังไม่เป็นระบบ ขาดแคลนศูนย์โลจิสติกส์ระดับชาติและเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ หากเวียดนามดำเนินโครงการพัฒนาดังกล่าวฯ โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ ทางรถไฟเชื่อมท่าเรือหวุงอ๋าง-ด่านจาลอ-ลาวและทางด่วนเพิ่มขึ้น จะช่วยให้การขนส่งสินค้าสะดวกรวดเร็วรวมถึงการขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกไทยมายังเวียดนามและสินค้าผ่านแดนของไทยไปจีนอีกด้วย
ข้อมูลจาก : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย