Header Image
สำนักงาน คปภ. เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567
watermark


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เดินหน้าตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เพื่อผลักดันให้เกษตรกรไทยมีเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการประกันภัยข้าวนาปี ซึ่งสำนักงาน คปภ. เป็นหนึ่งในหน่วยงานขับเคลื่อนโครงการประกันภัยข้าวนาปีมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2554 โดยได้ดำเนินการปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีให้เป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์ของการรับประกันภัย รวมถึงการอนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัย นอกจากนี้ ภารกิจหน้าที่สำคัญคือ การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 ผ่านโครงการ “ส่งเสริมความรู้โครงการประกันภัยข้าวนาปี” เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการประกันภัยข้าวนาปีในการเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ 
โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 แบ่งการรับประกันภัยเป็น 2 ส่วน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
 - การประกันภัยส่วนแรก หรือการประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้ความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ภัยลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ลูกเห็บ ไฟไหม้ และภัยจากช้างป่า วงเงินความคุ้มครอง 1,190 บาทต่อไร่ และให้ความคุ้มครองภัยจากศัตรูพืชหรือโรคระบาด วงเงินความคุ้มครอง 595 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีของ ธ.ก.ส. จะได้รับการอุดหนุนเบี้ยประกันภัยทั้งหมดจากรัฐบาลและ ธ.ก.ส. สำหรับเกษตรกรทั่วไปจะชำระค่าเบี้ยประกันภัยตามพื้นที่ความเสี่ยง โดยในปีการผลิต 2567 นี้ จะให้ความสำคัญกับพื้นที่นำร่องในพื้นที่ความเสี่ยงภัยต่ำ (พื้นที่สีเขียว) จำนวน 689 อำเภอ เป้าหมายรวม 5 ล้านไร่ โดยเกษตรกรจะชำระค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 5 บาทต่อไร่ 
 - การประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) โดยเกษตรกรสามารถซื้อประกันภัยเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติมจากการประกันภัยพื้นฐาน สำหรับภัยธรรมชาติ 7 ภัย จะรับความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ และกรณีภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาดจะได้รับความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่
 ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account @OICCONNECT หรือสายด่วน คปภ. 1186 รวมทั้งสามารถขอเอาประกันภัยได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ แอปพลิเคชัน A Insure นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมมากกว่า 20 แห่ง ในการเผยแพร่ข้อมูลโครงการในทุกช่องทาง ในรูปแบบเรดิโอสปอต แผ่นพับความรู้ฉบับพิมพ์และฉบับอิเล็กทรอนิกส์ และคลิปวีดิทัศน์ 
สำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวนาไทย และทำให้เกษตรกรเล็งเห็นถึงความสำคัญของการประกันภัยมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนในการปฏิรูปนโยบายการประกันภัยพืชผล ซึ่งนำไปสู่การสร้างความมั่นคงในชีวิตและยกระดับรายได้ของเกษตรกรในประเทศต่อไป


image รูปภาพ
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
starstarstarstarstar
จำนวนการเข้าชม : 261,542